วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558

นวนิยาย

นวนิยาย


นวนิยาย ภาพสะท้อนความจริงและจินตนาการ ส่วนผสมผสานที่ลงตัวของเรื่องโกหกกับสัจจะ ไม่ว่าจะนิยามมันว่าอย่างไร นวนิยายก็ยังเป็นเรื่องแต่งขนาดยาวถึงปานกลาง ที่ปะปนไปด้วยสิ่งปรุงแต่งและข้อเท็จจริง
กลวิธีการเขียนนวนิยาย เป็นเรื่องอธิบายหลักการเขียนได้ยาก เพราะหลายครั้งผู้เขียนมีการทดลองและผสมผสานเรื่องราวให้ดูมีความหลากหลาย รวมไปถึงไม่ได้มีสูตรแน่นอนตายตัวและไม่ได้มีโรงเรียนสอนหลักสูตรนี้ นักเขียนแต่ละคนล้วนแต่คลำหาเส้นทางนั้นเอง ในงานสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน ได้ก่อให้เกิดประเภทงานเขียนนวนิยายต่างๆ ขึ้นมา หากจะกล่าวถึง ประเภทของนวนิยายเท่าที่มีอยู่ เรื่องนี้พอจะพูดได้โดยภาพรวม แต่เรื่องของการแบ่งประเภท ก็เกือบจะเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลเช่นกัน
การแบ่งประเภทของนวนิยาย มีความแตกต่างกันออกไป ในที่นี้ผมได้รวบรวมออกมาจากหนังสือเรื่องเขียนของคุณพิมาน แจ่มจรัส ซึ่งได้ข้อมูลชุดนี้มาจาก พจนานุกรมศัพท์วรรณกรรม อังกฤษ-ไทย ในเล่มนี้ ได้จำแนกประเภทของนวนิยายเอาไว้ดังนี้
1. นวนิยายจินตนิมิต(Fantasy Novel) คือเรื่องแต่งที่มีการใช้โลกที่ไม่มีจริง เช่น นรก ดินแดนใต้ดิน เป็นฉากในงานเขียนของตน โดยอาจ มีตรรกะบางอย่างที่แตกต่างจากโลกจริงๆไปบ้าง เช่น เวทย์มนต์ อย่าง The Lord of the ring ของ จอร์น ทอลคีน หรือทวิภพ ของ ทมยันตี
2. นวนิยายรัก (Romantic Novel) เป็นเรื่องแต่งที่เน้นให้ความรักเป็นแก่นหรือสาระสำคัญ ใช้ความรักเป็นเหตุจูงใจให้เกิดเหตุการณ์สำคัญ ของเรื่อง โดยยังแบ่งประเภทเป็น

- Romantic Comedy –
นวนิยายรักสุข เนื้อเรื่องบันเทิงเริงรมย์ นำไปสู่ตอนจบที่มีความสุข เช่น As you like it ของ เช็คสเปียร์
- Romantic Tragedy - 
นวนิยายรักโศก เนื้อหาจบลงด้วยความเศร้า อึมครึม เช่น Streetcar Named Desire ของ เทนเนสซี วิลเลียมส์คู่กรรม ของทมยันตี
- Tragic-Comedy – 
นวนิยายเบาสมอง ปนเรื่องขบขัน เช่น นางแมวป่า ของ อรวรรณ ,นางไพร ของ รพีพร
3. นวนิยายจดหมาย (Letters Novel) เป็นงานเขียนโต้ตอบในรูปจดหมาย ระหว่างตัวละคร เช่น Humphrey Clinker ของ โทมัส ยอร์ช   สมอลเล็ตต์ คุณพ่อขายาว ของ Jean Webter ทางรัก ของ ทมยันตี ,ในฝัน ของ โรสลาเลน

4. นวนิยายชีวิตเสเพล(Picaresque Novel) นำเสนอเรื่องราวเสเพลของตัวละคร โดยเล่าประสบการณ์ทำนองเสียดสีสังคมของตน การ     เอาตัวรอด โดยมักเล่าเป็นตอนๆ ไม่มีโครงเรื่องที่แน่นอน เช่น Jonathan Wild ของ เฮนรี ฟีลลิง ,พันธุ์หมาบ้า ของ ชาติ กอบจิตติ ,เด็กเสเพล ของ พนมเทียน

ที่มา: หนังสือ : เขียน” :พิมาน แจ่มจรัส





วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558

การเขียนข่าว


การจัดการความรู้…คู่มือการเขียนข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์

PR_Cover
อะไรคือข่าว
แต่ละวันหนึ่ง ๆ มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ใช่ทุกเหตุการณ์มีค่าควรแก่การรายงาน ฉะนั้นอะไรคือข่าว ข้อมูลประเภทใดที่ผู้อ่านต้องการ และจำเป็นต้องได้รับ ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรคำนึงในเรื่องนี้ทุกวันก่อนเริ่มทำข่าว  ที่สำคัญต้องถามตัวเองก่อนว่า “คนจะพูดถึงเรื่องนี้กันไหม” และ”ข้อมูลนี้จำเป็นต้องทราบกันหรือไม่” เพราะ”ข่าว” คือข้อมูลที่คนส่วนใหญ่เห็นว่า”สำคัญ” หรือ”น่าสนใจ” ข่าวจึงต่างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ทุกๆ วัน
สิ่งที่เป็น”ข่าว” คือ “สิ่งที่ไม่ปกติธรรมดา” คำนิยามที่โด่งดังของข่าวคือ”หมากัดคนไม่เป็นข่าว แต่คนกัดหมาต่างหากที่เป็นข่าว” เช่น ชายคนหนึ่งที่ถูกจับเพราะกัดหมาของเขาเข้าที่คอ ชายคนนั้นพยายามจะแสดงให้เห็นว่า เขาเป็นนายของหมาตัวนั้น
ข่าว” ยังเป็นสิ่งที่ “ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนจำนวนมาก” อาจจะเป็น ข่าวแผ่นดินไหว ข่าวภาวะโลกร้อน ข่าวโรคระบาด ข่าวทุจริตคอรัปชั่น ข่าวฉ้อราษฏร์บังหลวง ข่าวแฟชั่นยอดนิยม ข่าวน้ำท่วมใหญ่ที่ทำลายบ้านเรือนและพืชผล อาจจะเป็นข่าวขึ้นราคาน้ำมัน ซึ่งหมายความว่าคนต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นเวลาขับขี่จักรยานยนต์ หรือรถยนต์ เรื่องที่ใหญ่ที่สุดมักจะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่
บางครั้งข่าวเป็นเพียงเรื่องที่ บุคคลสำคัญ คนเด่น คนดัง หรือคนที่มีชื่อเสียงกระทำหรือพูด เช่น ในหลวง นายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดี รัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปลัดกระทรวง อธิบดี หรือข้าราชการชั้นสูง ดารา นักร้อง นักกีฬาฯ ฯลฯ บุคคลเหล่านี้มีอำนาจ และ มีอิทธิพล ความเห็นของบุคคลเหล่านี้ จึงได้รับการรายงานมากกว่าความเห็นของคนธรรมดา
ข่าว มีกำหนดเวลา โดยปกติแล้ว ข่าวคือเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ไม่ใช่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ผู้อ่านต้องการทราบเหตุการณ์ล่าสุด และต้องการทราบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากมีไฟไหม้ใหญ่ในเมือง นักข่าวโทรทัศน์ต้องรายงานข่าวได้ทันทีเพื่อนำเสนอในวันนั้น นักข่าวหนังสือพิมพ์ก็ต้องเขียนข่าวให้ทันพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับวันรุ่งขึ้น
ข่าวมักจะเสนอเรื่อง ความขัดแย้ง ความขัดแย้งเกิดขึ้นในชีวิตมนุษย์ทุกวัน คนขัดแย้งกันเรื่องที่ดิน พรรคการเมืองแย่งกันควบคุมรัฐบาล ประเทศต่างๆ สู้รบกัน
ข่าวยังมีแง่มุมของ ท้องถิ่น ประชาชนต้องการทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในท้องที่ หรือที่เกิดใกล้บ้านตนเอง หนังสือพิมพ์ในเมืองเวียงจันทร์ฉบับหนึ่งสนใจข่าวน้ำท่วมใกล้เมืองเวียงจันทร์ แต่ไม่สนใจข่าวน้ำท่วมที่กรุงปักกิ่งเท่าใดนัก บางครั้งข่าวคือ ข้อมูลที่มีประโยชน์ อาจจะเป็นเรื่องวิธีหางานใหม่ หรือเรื่องเกี่ยวกับการออกำลังกาย การดูแลรักษาสุขภาพ เคล็ดลับความงาม เคล็ดลับการบริหาร เคล็ดลับคนเก่งพิชิตเอนทรานซ์ ฯลฯ  ยังมีข่าวที่เพียงแต่ให้ความ บันเทิง เท่านั้น เช่น ข่าวเกี่ยวกับสัตว์เรื่องตลกๆ ที่คนทำกัน และการสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ เป็นต้น
ข่าวไม่ใช่สิ่งที่จะนิยามกันง่ายๆ ผู้สื่อข่าวหัดใหม่อาจจะรู้สึกเคว้งคว้าง หากบรรณาธิการสั่งให้ออกไป “หาข่าวกลับมาสักชิ้นหนึ่ง”ผู้สื่อข่าวหัดใหม่คนนั้น อาจจะพัฒนาความรู้ ความสามารถที่จะจับเรื่องที่จะเป็นข่าวได้ในทันที เมื่อเริ่มมีประสบการณ์มากขึ้นแล้ว ซึ่งต้องใช้เวลา ขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน